How to ขี้เกียจอย่างไรให้ได้งาน

 


เราไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนขี้เกียจ แต่ว่าเราจะลองมาศึกษากันหน่อยสิ ขี้เกียจแบบไหนมันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น สบายขึ้นได้บ้าง เพราะความ "ขี้เกียจ" ไม่เข้าใครออกใคร เพราะใครๆก็ขี้เกียจได้ จริงมั้ย

Nice มาชวนคุยเรื่องความขี้เกียจ มันเป็นปัญหาสุดคลาสสิคมากของทุกเพศ ทุกวัย ลองได้สำรวจคนรอบข้างพบว่า คนวัยเรียนชี้เกียจไปโรงเรียน ขี้เกียจอ่านหนังสือสอบ สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากการไปโรงเรียนในแต่ละวันใช้เวลาค่อนข้างนาน นับเวลาก็ร่วม 8 ชั่วโมงได้เลย อีกอย่างพอน้องๆได้เข้าเรียนก็มักเจอบรรยากาศเดิมๆ เพิ่มเติมคือบางวันอาจเจอวิชาที่ยาก ยิ่งทำให้ขี้เกียจเรียนไปด้วย 

ส่วนวัยทำงานก็จะขี้เกียจตื่นเช้า เพื่อไปเจอกับปัญหารถติดระหว่างทางที่ไปเข้างาน สารพัดปัญหาที่อาจเจอในสำนักงาน และยังไม่รวมปัญหาที่เกิดจากงานจริงๆ หรือ เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบขี้หน้าด้วย 

เมื่อเป็นแบบนี้และบางกิจกรรมก็เลี่ยงไม่ได้ เรามาลองปรับ mindset  หรือ คิดใหม่ 

ให้กับปัญหาความขี้เกียจเหล่านี้กันเถอะ 



1. จัดตารางชีวิตและเลือกให้ความสำคัญ

 หลายคนอาจจะยังไม่เคยลองทำตารางชีวิตให้ตัวเอง แต่ Nice ชวนลองสังเกตชีวิตผู้บริหารระดับสูง เราจะพบว่าคนกลุ่มนี้ต้องมีเลขาส่วนตัว เพื่อคอยจัดแจงธุระให้ มีการทำงานตามขั้นตอนและมักจะเรียงธุระจากสำคัญมากไปหาสำคัญน้อย เมื่อเป็นแบบนี้ชีวิตมีระเบียบขึ้น พอทุกอย่างเป็นระเบียบเราจึงไม่มีเวลามานั่งขี้เกียจ 

เทคนิคการจัดความสำคัญตามสไตล์ Nice 

สำคัญมาก ด่วน กระทบคนส่วนใหญ่ เท่ากับ ลงมือทำ ควบคุมเวลาให้ดี หากเราไม่อยากให้ใครบอกว่า เราเป็นตัวถ่วงของกลุ่ม ทำงานล่าช้า

2. หาตัวช่วยในการทำงาน 

    ทุกคนมีสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานได้มากกว่าการเข้าเว็บสังคมออนไลน์ ดังนั้นเรามารู้จักแอปพลิเคชั่นที่สามารถช่วยกำจัดความขี้เกียจเหล่านี้ได้ เช่น  แอปพลิเคชั่นปฏิทิน ที่มีในมือถือทุกเครื่อง หลังจากเราทำตามข้อแรกได้แล้ว ลองทำโน๊ตหรือทำแจ้งเตือนในแอปปฏิทิน  เช่น กำหนดเวลาของแต่ละกิจกรรมไม่เกินสองชั่วโมง เมื่อหมดเวลาต้องผ่อนคลาย หรือ ทำกิจกรรมอื่นๆที่อยู่ในลิสต์ควรทำทันที 

>> อ่านบทความ "บริหารชีวิตด้วยแอปปฏิทิน" 

3. ใช้ปากกาเขียนแพลนเนอร์ (Planner) ทำ to-do list 

    การจดช่วยให้เราได้ทบทวน เอาสิ่งที่อยู่ในหัวเขียนออกมาให้สายตาได้อ่าน เพิ่มสมาธิให้ตัวเอง เพราะก่อนเราจะเขียน สมองได้คิดเรียบเรียง มีงานวิจัยชี้ว่า คนเราจดดีกว่าจำ อ้างอิงจาก Longman and Atkinson พบว่าโดยเฉลี่ย คนเรามีโอกาสจำข้อมูลสำคัญๆที่เราได้ยินได้ฟังประจำวัน เพียง 5% หากไม่จดบันทึกมันไว้ 

เคล็ดลับเล็กน้อยจากเรา หากไม่ชอบอะไรหรือขี้เกียจทำอะไรสักอย่าง เรายิ่งต้องรีบลงมือทำสิ่งนั้นเพื่อไม่ให้มันอยู่กับเราในเวลาที่น้อยที่สุด แบบนี้ชีวิตเราจะ Nice ขึ้นอีกเยอะ 

ดาวน์โหลดตัวอย่างแพลนเนอร์ ฟรี ที่นี้  กดดาวน์โหลดได้ทันที (ไฟล์ PDF)

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า