Food Planner แพลนเนอร์อาหารตัวช่วยสร้างสุขภาพ



Nice by Editor 

"กินอาหารเป็นยา อย่ากินยาเป็นอาหาร" คำพูดที่ฟังแล้วก็รู้สึกฉุกคิดขึ้นมาได้อีกนิดสำหรับคนชอบกินแบบนักเขียน ต้องยอมรับว่าการกินนำมาซึ่งความสุขที่เรามักจะเข้าถึงและสามารถทำได้เลยทันที เพียงแค่เลือกอาหารที่ชอบ

ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการนั่งคาเฟ่ เลือกจิบเครื่องดื่มสั่งคู่กับเค้ก ไม่ก็เบเกอรี่สักชิ้น และนี้เองเป็นที่มาของน้ำหนักส่วนเกินที่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการลดน้ำหนักอีกครั้ง เราเริ่มรู้สึกว่า "ต้องลดน้ำหนัก" เมื่อเสื้อผ้าทีมีอยู่เริ่มไม่เป็นมิตร

ด้วยสาเหตุนี้ จึงได้ค้นหาวิธีต่างๆจากยูทูป เว็บบล็อก Pinterest วิธีสุดฮิตที่เจอมาคือ การเขียนแพลนเนอร์อาหาร เดิมทีไอเดียนี้มาจากรายการอาหารของผู้ป่วยที่ต้องดูแลและควบคุมโภชนาการในแต่ละสัปดาห์ และก็ปิ๊งไอเดียมาจากคุณแม่ที่ต้องทำอาหารให้ลูกๆในบ้านในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดแบบนี้

เริ่มที่ไอเดียแรก เมื่อรู้ว่าทั้งสัปดาห์ต้องกินเมนูอะไรบ้าง ทำให้เราสามารถควบคุมการซื้อวัตถุดิบท่จะต้องเตรียมไว้ในตู้เย็นแต่ละครั้งค่ะ กินอะไรก็ซื้อเท่านั้นไม่ซื้อมาตุนมากเกินไป วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้แล้ว ยังควบคุมสภาพของอาหารให้มีความสดใหม่ได้ในเวลาที่เหมาะสม ไม่มี "กินเหลือ" "เน่า" หรือ "กินไม่ทัน" 

ไอเดียที่สอง สามารถติดตามการกินของตัวเองและคนรักได้มากขึ้น สายสุขภาพหรือคนรักสุขภาพมือใหม่ หากจะลองใช้วิธีนี้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์

เสริมท้ายสำหรับคนรักสุขภาพ ให้ความสำคัญกับการเสริมโปรตีนให้ตนเองตามน้ำหนักตัว ผู้เขียนค้นหาข้อมูลได้มาดังนี้ สมมุติเรา (ผู้หญิง)  ในหนึ่งวันควรทานโปรตีนให้ได้จำนวน 1 กรัม ต่อ 1 กิโลกรัม  หากน้ำหนักตัวที่ 50 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีนอย่างน้อย 50 กรัม ต่อวัน ซึ่งในที่นี้ไม่ใช่น้ำหนักตามตราชั่ง แต่เป็นสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารชนิดต่างๆ อธิบายให้เข้าใจง่าย คือ 

ไข่ไก่ 1 ฟอง (ทั้งฟอง กินไข่ขาวและไข่แดง)  มีปริมาณโปรตีน  จำนวน 7  กรัม 

แต่ละวันควรได้รับโปรตีนจากอาหารที่มาจากแหล่งอาหารที่หลากหลายเช่น 
โปรตีนจากเนื้อสัตว์ มี เนื้อปลา เนื้อไก่  
โปรตีนจากพืช  ได้แก่ พืชตระกูลถั่ว 

Nice ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี เขียนแพลนเนอร์อาหารกันแล้วดีหรือไม่อย่างไร กลับมาเล่าบ้างนะคะ

ภาพประกอบบทความ จาก Nice Magazine online ฉบับเดือนกรกฏาคม 2565 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า