ในแต่ละฤดูกาลจะมีทั้งผักและผลไม้ออกมาให้ได้รับประทานกันอย่างหลากหลายไม่ซ้ำชนิด เป็นสวรรค์ของคนรักผักผลไม้โดยแท้จริง บางคนชอบทานผัก ผลไม้สดๆ บางคนชอบทานแบบแปรรูป เช่นการนำมาทำน้ำปั่น สมูทตี้ หรือนำมาเป็นส่วนผสมของไอศครีม ขนมหวาน ทั้งขนมไทยขนมต่างประเทศก็สามารถเลือกสรรได้ตามใจชอบ
ในวันนี้ผักที่เลือกมาแนะนำเพื่อนๆทั้งหาซื้อง่ายทั้งอร่อย ก็คือ “แครอท”นั่นเอง เราจะมาบอกถึงประโยชน์ของแครอท รวมถึงสูตรการทำน้ำแครอทมาฝากกันค่ะ แครอทเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่รู้จักกันดีและนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารและแปรรูปทำเป็นของทานเล่นต่างๆหรือทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาทำเป็นน้ำปั่นหรือน้ำแครอทดื่มสดๆจะยิ่งช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยถูกใจ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แครอทที่นิยมรับประทานกันในทุกวันนี้ เป็นพืชในตระกูลผักชีที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีสีส้ม สีแดง สีเหลือง ซึ่งล้วนแต่เกิดจากเม็ดสีที่ชื่อว่าแคโรทีนอยด์ (carotenoid) แครอทมีรสชาติออกหวาน ไม่มีรสขม เป็นหนึ่งในผักที่มีคุณค่าทางสารอาหาร อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในกระบวนการป้องกันและบำรุงของร่างกายหลายอย่าง เพราะในแครอทมีสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ช่วยเพิ่มความจำและกระตุ้นการทำงานของสมอง อีกทั้งมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกว่า เรติน่า ซึ่งการที่ได้รับประทานแครอทบ่อย ๆ ยังช่วยถนอมดวงตาให้สามารถมองเห็นอย่างปกติไปได้อีกนานเลยค่ะ
วิตามินและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดที่อยู่ในแครอท
ไบโอติน: ไบโอติน (biotin) หรือ วิตามินเอช (vitamin H) หรือที่หลายคนได้ยินในชื่อ วิตามินบี 7 (vitamin B7) มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญของเซลล์ การผลิตกรดไขมัน กรดอะมิโนและนอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน ยิ่งไปกว่านั้นคือไบโอตินถือเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการดูแลและบำรุงสุขภาพผิว เล็บ และเส้นผม ให้สุขภาพดีและแข็งแรงอีกด้วย
วิตามิน K1: รู้จักกันในอีกชื่อคือ สารฟิลโลควิโนน (Phylloquinone) เป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด ป้องกันภาวะเลือดไหลออกมากจนเกินไป ช่วยป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุดและช่วยส่งเสริมสุขภาพของกระดูกให้มีความแข็งแรง
โพแทสเซียม: ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติช่วยควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยรักษาภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน
วิตามินบี 6: ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง ช่วยชะลอวัยและกระบวนการชราของร่างกาย ช่วยให้ระบบภูมิคุมกันแข็งแรง รักษาสมดุลฮอร์โมนเพศและลดอาการก่อนมีประจำเดือนนอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
สูตร “น้ำแครอทผสมมะนาว” เพื่อสุขภาพ
หลังจากที่ได้รู้ถึงประโยชน์ของแครอทกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาดูวิธีการทำน้ำแครอทไว้ดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพและความงามของพวกเรากันดีกว่า
วัตถุดิบ
- แครอท 2-3 หัว
- น้ำต้มสุก 3 ถ้วย
- เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
- น้ำเชื่อม (ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับความหวานที่ต้องการ)
- น้ำมะนาว (ปริมาณชิมตามชอบ)
วิธีทำ
1) นำแครอทที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาด โดยสามารถใช้ฟองน้ำช่วยขัดถูผิวเพื่อล้างคราบดินและฝุ่นได้
2) นำแครอทที่ล้างสะอาดมาตั้งทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นทำการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3) นำแครอทที่ที่หั่นเรียบร้อยแล้วใส่โถปั่น เติมน้ำต้มสุกที่เตรียมไว้ลงไป
4) ปั่นจนได้เนื้อแครอทที่ละเอียด แล้วเติมเกลือ น้ำเชื่อม และน้ำมะนาว ปั่นต่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน (สำหรับใครที่ชอบเสาวรสสามารถเปลี่ยนจากการใส่น้ำมะนาวเป็นน้ำเสาวรส โดยใช้เป็นเสาวรส 3-4 ผลมากรองคั้นน้ำและใส่ผสมลงไป)
5) เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ สามารถดื่มแบบเย็นหรือดื่มสดๆได้เลย
สำหรับใครที่มีเครื่องคั้นน้ำผักและผลไม้แบบแยกกาก สามารถน้ำแครอทไปคั้นน้ำก่อนและนำมาผสมกับวัตถุดิบอื่นๆที่เตรียมไว้ หรือจะดื่มแบบไม่ต้องผสมก็ได้เช่นกัน
Nice By Little Pig